IntFinQ10-11-12

สัญญา SWAP แบบ “Plain vanilla” มีลักษณ์อย่างไร

• มีความซับซ้อนสูง

• ใช้แลกเป็นสกุลเงินมากกว่า 2 สกุล

• ใช้แลกเปลี่ยนประเภทของดอกเบี้ย ระหว่างดอกเบี้ยลอยตัวและดอกเบี้ยคงที่

• ถูกทุกข้อ

SWAP bank มีหน้าที่อย่างไรในการทำธุรกรรม SWAP

• เป็นผู้ควบคุมตลาด SWAP

• เป็นคู่สัญญาในตลาด SWAP

• เป็นคนเก็งกำไรจากตลาด SWAP

• ไม่มีข้อใดถูก

สัญญา SWAP มีข้อดีอย่างไร

• สามารถแปลงดอกเบี้ยแบบลอยตัวไปเป็นแบบคงที่ได้

• สามารถทำให้ต้นทุนในการกู้ยืมถูกลง

• สามารถทำให้ตลาดการเงินมีประสิทธิภาพมากขึ้น

• ถูกทุกข้อ

12 basis point มีค่าเท่ากับเท่าใด

• 12%

• 1.2%

• 0.12%

• 0.012%

ข้อใดไม่ใช่ความเสี่ยงของการใช้สัญญา SWAP

• ความเสี่ยงทางด้านความน่าเชื่อถือ (credit risk)

• ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน (exchange rate risk)

• ความเสี่ยงจากการจับคู่สัญญาไม่ได้ (mismatch risk)

• ความเสี่ยงจากรายได้ (income risk)

จากข้อมูลต่อไปนี้ดอกเบี้ยต่อไปนี้

Firm A Fixed rate 5 % Floating rate LIBOR+1%

Firm B Fixed rate 7 % Floating rate LIBOR+2%

SWAP Rate 6.2%-6.4%

บริษัท A ควรกู้เงินที่ Rate ไหน แล้วค่อยไปทำ swap

• Fixed rate 5 %

• Floating rate LIBOR+1%

• Fixed rate 7 %

• Floating rate LIBOR+2%

ทางเลือกในการป้องกันความเสี่ยงจากการนำเข้าสินค้าในข้อใดเหมาะสมที่สุด

• ซื้อ Futures สกุลเงินตราต่างประเทศ

• ขาย Forward สกุลเงินตราต่างประเทศ

• ไม่จำเป็นต้องทำการป้องกันความเสี่ยง

• ขาย Call option ในสกุลเงินของตน

กลยุทธ์ Lead เหมาะสมกับสถาณการณ์ในข้อใด

• เมื่อเป็นผู้ส่งออกและคาดว่าเงินตราต่างประเทศกำลังจะอ่อนค่าลง

• เมื่อเป็นผู้นำเข้าและคาดว่าเงินตราต่างประเทศกำลังจะแข็งค่าขึ้น

• ถูกทั้ง 2 ข้อ

• ผิดทั้ง 2 ข้อ

การเลือกใช้ Swap เผื่อป้องกันความเสี่ยงมีข้อดีอย่างไร

• สามารถป้องกันความเสี่ยงในระยะยาวได้

• เหมาะสำหรับการทำธรกรรมที่เกิดขึ้นซ้ำๆ

• ต้นทุนในการทำธุรกรรมที่ถูกลง

• ถูกทุกข้อ

หากต้องการใช้ option ในการป้องกันความเสี่ยงควรคำนึงถึงเรื่องใดต่อไปนี้มากที่สุด

• ราคาของ option

• ราคาใช้สิทธิ์

• ขนาดสัญญา

• ถูกทุกข้อ