สารละลาย

ข้อใดไม่ถูกต้องเกี่ยวกับสารละลาย

• สารละลายเป็นได้ทั้งของแข็ง ของเหลว และแก๊ส

• ตัวทำละลายเป็นได้เฉพาะของเหลวและแก๊สเท่านั้น

• สารละลายจะเป็นสารเนื้อเดียวเสมอ

• สารละลายจะมีส่วนประกอบอย่างน้อยสองอย่างขึ้นไป

Answer explanation

1.   ผิด เพราะ สารละลายเป็นได้ทั้งของแข็ง  ของเหลว และแก๊ส
2.   ถูก เพราะ ตัวทำละลายเป็นได้ทั้ง ของแข็ง ของเหลว และแก๊ส
3.   ผิด เพราะ สารละลายจะเป็นสารเนื้อเดียวเสมอ
4.   ผิด เพราะ สารละลายจะมีส่วนประกอบอย่างน้อยสองอย่างขึ้นไป

จงพิจารณาว่าสารละลายใดมีความเข้มข้นมากที่สุด

• สาร B     5 g        ละลายในน้ำ   30     cm³

• สาร B   10 g        ละลายในน้ำ  100 cm³

• สาร B   15 g        ละลายในน้ำ  150 cm³

• สาร B   20 g        ละลายในน้ำ  200 cm³

Answer explanation

1. ถูก เพราะ น้ำ 30     cm³  มีสาร B ละลายอยู่  5 กรัม
                 ถ้าน้ำ 100 cm³  มีสาร B ละลายอยู่  16.67%
2. ผิด เพราะ น้ำ 100 cm³  มีสาร B ละลายอยู่  10 กรัม
                 ถ้าน้ำ 100 cm³  มีสาร B ละลายอยู่  10 %
3. ผิด เพราะ น้ำ 150 cm³  มีสาร B ละลายอยู่  15 กรัม
                ถ้าน้ำ 100 cm³  มีสาร B ละลายอยู่  10 %
4. ผิด เพราะ น้ำ 200 cm³  มีสาร B ละลายอยู่  20 กรัม
              ถ้าน้ำ 100 cm³  มีสาร B ละลายอยู่  10 %

ของแข็ง A  ละลายในน้ำ ต้องใช้พลังงาน 2 ขั้นตอน
    1. พลังงานในการที่ A  แตกตัวเป็นอนุภาคเล็ก ๆ
    2. พลังงานที่อนุภาค A  ยึดเหนี่ยวกับอนุภาคน้ำ
ถ้าพลังงานในข้อ 1  มากกว่าข้อ  2  สารละลายจะมีอุณหภูมิเพิ่มขึ้นหรือลดลงอย่างไร

• อุณหภูมิลดลง และดูดความร้อน

• อุณหภูมิลดลง และคายความร้อน

• อุณหภูมิเพิ่มขึ้น และดูดความร้อน

• อุณหภูมิเพิ่มขึ้น และคายความร้อน

Answer explanation

1.   ถูก เพราะ ถ้าพลังงานที่ใช้ทำให้ตัวละลายแยกตัวเป็นอนุภาคเล็กๆมีค่ามากกว่าพลังงานที่คายออกมาขณะที่ตัวละลายยึดเหนี่ยวกับตัวทำละลาย แสดงว่าการละลายของสารนี้ดูดพลังงาน สารละลายจะมีอุณหภูมิต่ำลง จัดเป็นสารละลายประเภทดูดความร้อน                                                                           
2.   ผิด เพราะต้องดูดความร้อน  
3.   ผิด เพราะ อุณหภูมิต้องลดลง และดูดความร้อน  
4.   ผิด เพราะ อุณหภูมิต้องลดลง และดูดความร้อน

ปัจจัยที่มีผลต่อการเพิ่มการละลายของสารในสารละลายอิ่มตัว คือข้อใด

• 
  ตัวเลือกที่ 1 :

  การเติมสารให้มากขึ้น

• การลดปริมาณน้ำให้น้อยลง

• การเพิ่มอุณหภูมิให้สูงขึ้น

• การเพิ่มขนาดของอุปกรณ์ให้ใหญ่ขึ้น

Answer explanation

1.  ผิด เพราะ การเติมสารให้มากขึ้นจะทำให้เกิดการตกผลึกของสารละลาย
2.  ผิด เพราะ การลดปริมาณน้ำให้น้อยลงจะทำให้การละลายน้อยลง
3.  ถูก เพราะ การเพิ่มอุณหภูมิทำให้สารลายที่อิ่มตัวแล้วละลายได้มากขึ้น
4.  ผิด เพราะการเพิ่มขนาดของอุปกรณ์ให้ใหญ่ขึ้นไม่มีความเกี่ยวข้องกับการละลายของสาร

เมื่อตรวจสอบค่า pH ของน้ำมะขามด้วยกระดาษยูนิเวอร์ซัลอินดิเคเตอร์ ค่า pH ที่ได้ควรมีค่าเท่าใด

• ค่า pH  ประมาณ 6.0-6.9

• ค่า pH ประมาณ 7.1-8.0

• ค่า pH ประมาณ 7.0

• ค่า pH ประมาณ 8.1-9.0 

Answer explanation

1.  ถูก เพราะ น้ำมะขามมีสมบัติเป็นกรด ซึ่งคุณสมบัติของสารละลายที่เป็นกรด จะมีค่า pH น้อยกว่า 7.0
2.  ผิด เพราะ ค่า pH ประมาณ  7.1-8.0  เป็นค่าที่แสดงให้เห็นถึงคุณสมบัติที่เป็นเบส
3.  ผิด เพราะ ค่า pH ประมาณ    7.0  มีสมบัติเป็นกลาง
4.  ผิด เพราะ ค่า pH ประมาณ  8.1-9.0 มีสมบัติเป็นเบส

บ้านหนูไก่แจ้ มีสารเคมีอยู่ 3 ชนิด โดยสารเคมีแต่ละชนิดมีค่า pH ดังนี้
       สาร A ค่า pH เท่ากับ 1      สาร B ค่า pH เท่ากับ 8             สาร C ค่า pH เท่ากับ 12
จากข้อมูลข้างต้น ข้อใดถูกต้อง

• สาร A และสาร B เป็นกรด

• สาร A และสาร C เป็นเบส

• สาร B และสาร C เป็นกรด

• สาร B และสาร C เป็นเบส

Answer explanation

1.   ผิด เพราะ  สาร A เป็นกรด ส่วนสาร B เป็นเบส            
2.   ผิด เพราะ สาร A เป็นกรด  และสาร C เป็นเบส                                                                         
3.   ผิด เพราะ สาร B และสาร C เป็นเบส
4.   ถูก  เพราะ สาร B และสาร C เป็นเบส

ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับสารในชีวิตประจำวัน

• ผงซักฟอกและสบู่ทำให้ไขมันละลายน้ำได้

• ยาลดกรดมีสมบัติเป็นเบส

• น้ำส้มสายชูปลอมทำให้ผักชีเหี่ยวและเปื่อยยุ่ย

• ควรบรรจุน้ำมะนาวในภาชนะที่ทำด้วยอะลูมิเนียม

Answer explanation

1. ผิด เพราะผงซักฟอกและสบู่ จัดเป็นอิมัลซิไฟเออร์ ที่ช่วยให้ไขมันละลายอยู่ในน้ำได้ โดยถือเป็นอิมัลชัน
2. ผิด เพราะ ยาลดกรดส่วนใหญ่มีสมบัติเป็นเบส เพราะสารละลายกรดและสารละลายเบสสามารถเกิดปฏิกิริยาได้โดย ถ้าสารละลายเป็นกรด เมื่อเราเติมสารละลายที่มีความเป็นเบสลงไป สารละลายกรดจะมีค่า pH เพิ่มมากขึ้นจนกลายเป็นกลาง หรือเบสได้ ดังนั้นยาลดกรดจึงมีสมบัติเป็นเบส
3. ถูก เพราะ น้ำส้มสายชูปลอม ทำโดยการนำหัวน้ำส้มมาเจือจางกับน้ำ ซึ่งหัวน้ำส้มเป็นกรดเข้มข้นที่ใช้ในอุตสาหกรรมสิ่งทอ ฟอกหนัง ไม่ปลอดภัยต่อผู้บริโภค
4. ผิด เพราะ น้ำมะนาวเป็นกรด หากสารละลายมีสมบัติเป็นกรดโดนวัตถุที่เป็นโลหะ จะเกิดการกัดกร่อน และเกิดฟองแก๊สไฮโดรเจน ดังนั้นจึงไม่ควรบรรจุน้ำมะนาวในภาชนะที่ทำด้วยอะลูมิเนียม

ข้อใดกล่าวผิด

• สีจากดอกไม้สามารถนำมาตรวจสอบความเป็นกรด เบสของสารได้

• กระดาษลิตมัสเป็นอินดิเคเตอร์ชนิดหนึ่ง

• อินดิเคเตอร์จากธรรมชาติสามารถทำขึ้นเองได้

• อินดิเคเตอร์จากธรรมชาติไม่สามารถแยกสารที่มีสมบัติเป็นกรดและเบสได้

Answer explanation

1. ผิด เพราะ สีจากดอกไม้สามารถนำมาตรวจสอบความเป็นกรดเบสของสารได้
2. ผิด เพราะ กระดาษลิตมัสสามารถเป็นอินดิเคเตอร์ระบุได้ว่าสารนั้นเป็นกรดหรือเบส
3. ผิด เพราะ อินดิเคเตอร์จากธรรมชาติสามารถสกัดได้โดยใช้น้ำเป็นตัวทำละลาย
4. ถูก เพราะ อินดิเคเตอร์จากธรรมชาติสามารถแยกสารที่มีสมบัติเป็นกรดและเป็นเบสได้ เช่น สีของดอกอัญชัญ

มานะวัดค่า pH ของสารละลาย 3 ชนิด  ได้เท่ากับ 11 ,5 และ 7 สารละลาย 3 ชนิดนี้มีสมบัติใดบ้างตามลำดับ

• กรด  กลาง  เบส

• กลาง  กรด   เบส

• เบส  กลาง  กรด

• เบส   กรด   กลาง

Answer explanation

สารละลายที่มีค่า pH =7  เป็นสารละลายที่สมบัติเป็น กลาง
สารละลายที่มีค่า pH น้อยกว่า 7  เป็นสารละลายที่สมบัติเป็น กรด
สารละลายที่มีค่า pH มากกว่า 7  เป็นสารละลายที่สมบัติเป็น เบส
1. ผิด เพราะ ไม่ใช่ กรด  กลาง  เบส
2. ผิด เพราะ ไม่ใช่  กลาง  กรด  เบส
3. ผิด เพราะ ไม่ใช่  เบส  กลาง  กรด
4. ถูก เพราะ pH =1 (เบส)  ,  pH = 5 (กรด)  ,  pH =7 (กลาง)

สารละลายเอทานอล  45 % โดยปริมาตรต่อปริมาตร  จำนวน 200  cm3 จะมีเอทานอล เท่าใด

• 45 cm3

• 55 cm3

• 90 cm3

• 100 cm3

Answer explanation

45 % โดยปริมาตรต่อปริมาตร   หมายถึง สารละลายเอทานอล 100 cm3 มีเอทานอล 45 cm3  
ถ้าสารละลายเอทานอล 200 cm3 มีเอทานอล 90 c
1.   ผิด เพราะ 45 cm3
2.  ผิด เพราะ 55 cm3
3.   ถูก เพราะ 90 cm3
4.  ผิด เพราะ 100 cm3