แบบทดสอบบทที่3

1. คำว่า “Folklore” ถูกบัญญัติขึ้นในปี

• 1846

• 1910

• 1970

• 2000

2. ข้อใดคือความหมายของ “คติชน” ในยุคเริ่มต้น?

• เพลงและละครร่วมร่วมสมัย

• วัฒนธรรมชั้นสูงของราชสำนัก

• เทคโนโลยีพื้นบ้าน

• ความรู้และความเชื่อของประชาชนทั่วไป

3. จุดประสงค์หลักของการศึกษาคติชนในยุคแรกคืออะไร?

• สร้างคอนเทนต์เพื่อความบันเทิง

• เก็บรวบรวมของเก่าก่อนจะสูญหาย

• วิเคราะห์โครงสร้างภาษา

• ตอบโต้การล่าอาณานิคม

4. คติชนมีพัฒนาการอย่างไรในช่วงกลางศตวรรษที่ 20?

• หายไปจากสังคม

• กลายเป็นศิลปะร่วมสมัย

• เริ่มถูกวิเคราะห์เชิงสังคมและจิตวิทยา

• ใช้เฉพาะในพิธีศพ

5. แนวคิด “คติชนอยู่ในบริบท” หมายถึงข้อ

• คติชนมีความเป็นกลาง

• ความหมายของคติชนเปลี่ยนไปตามสถานการณ์

• คติชนเกิดได้เฉพาะในพิธีกรรม

• คติชนไม่สามารถตีความได้

6. ตัวอย่างของคติชนร่วมสมัยคือข้อใด?

• Meme ในโซเชียลมีเดีย

• การบูชาผีเรือน

• เพลงกล่อมลูกยุคอยุธยา

• การสวดมนต์ในวัดโบราณ

7. “คติชนเป็นของชาวบ้านเท่านั้น” เป็นความเข้าใจที่…?

• ถูกต้องทุกประการ

• ถูกเฉพาะในชนบท

• ใช้ได้เฉพาะในอดีต

• ผิด เพราะคติชนมีอยู่ในทุกกลุ่มสังคม

8. คติชนช่วย “ควบคุมสังคม” อย่างไร?

• สอนคนทำเทคโนโลยี

• บอกเล่าเรื่องผีเพื่อให้เด็กไม่ดื้อ

• ทำให้คนรักศิลปะ

• กระตุ้นการค้าระหว่างประเทศ

9. ถ้าเพลงแร็ปวิจารณ์รัฐบาลกลายเป็นที่นิยมในหมู่คนรุ่นใหม่ ถือว่าเป็น…?

• การเมืองระดับชาติ

• ปรัชญาสมัยใหม่

• วัฒนธรรมตะวันตก

• คติชนร่วมสมัย

10. อะไรคือสิ่งที่ “ยังคงอยู่” แม้คติชนจะเปลี่ยนไปตามยุค?

• รูปแบบการแต่งกาย

• ความต้องการของมนุษย์ในการเล่าเรื่อง

• ภาษาพูด

• พิธีกรรมเฉพาะศาสนา